สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย (FAT) ประกาศแยกทางกับ มาซาทาดะ อิชิอิ เฮดโค้ชทีมชาติไทย หลังผลงานของทีมไม่เป็นไปตามความคาดหวังของแฟนบอลและสมาคม การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากผลงานในการแข่งขัน AFF และรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกไม่สามารถตอบโจทย์เป้าหมายของชาติได้
ตลอดช่วงเวลาที่มาซาทาดะ อิชิอิคุมทีมชาติไทย ทีมชาติไทยเผชิญกับผลงานที่น่าผิดหวัง โดยเฉพาะผลงานในทัวร์นาเมนต์สำคัญ เช่น การแข่งขัน AFF Cup และรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2026 ทีมชาติไทยไม่สามารถทำอันดับให้เข้ารอบตามเป้าหมาย และมีความพ่ายแพ้ต่อคู่แข่งสำคัญอย่างเวียดนามและมาเลเซีย ทำให้ FAT ตัดสินใจยุติสัญญาโค้ช
มาซาทาดะ อิชิอิเข้ามาคุมทีมชาติไทยด้วยประสบการณ์สูงในวงการฟุตบอลญี่ปุ่น โดยก่อนหน้านี้เขาเคยประสบความสำเร็จทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติญี่ปุ่น แม้จะมีความเชี่ยวชาญด้านแท็คติคและการพัฒนานักเตะ แต่การปรับทีมให้เข้ากับการแข่งขันระดับอาเซียนและเอเชียยังไม่สามารถตอบสนองเป้าหมายของ FAT ได้
การแยกทางกับโค้ชชาวญี่ปุ่นครั้งนี้ส่งผลต่อทีมชาติไทยในหลายด้าน ทั้งเรื่องจิตวิทยานักเตะ การเตรียมทีมสำหรับทัวร์นาเมนต์สำคัญ และความเชื่อมั่นของแฟนบอล นอกจากนี้ยังเป็นบทเรียนสำหรับ FAT ในการคัดเลือกโค้ชต่างชาติและการวางแผนระยะยาว
นักวิเคราะห์ฟุตบอลมองว่า แม้มาซาทาดะ อิชิอิจะมีผลงานและแท็คติคที่น่าสนใจ แต่การปรับตัวเข้ากับฟุตบอลไทยเป็นเรื่องท้าทาย สำหรับแฟนบอลบางส่วน รู้สึกเสียใจที่ทีมต้องเปลี่ยนโค้ช แต่หลายคนก็เห็นด้วยว่าการเปลี่ยนแปลงอาจเป็นทางออกที่ดีที่สุดเพื่อฟื้นฟูฟอร์มของทีม
FAT ต้องหากุนซือใหม่ที่สามารถปรับแท็คติคให้เข้ากับสภาพทีม และสร้างผลงานให้ตอบโจทย์แฟนบอลและความคาดหวังของชาติ การเลือกโค้ชใหม่อาจเน้นทั้งประสบการณ์และความเข้าใจฟุตบอลอาเซียน เพื่อเตรียมทีมสำหรับทัวร์นาเมนต์สำคัญในปี 2025–2026
การแยกทางกับ มาซาทาดะ อิชิอิ ถือเป็นข่าวช็อกวงการฟุตบอลไทย แต่ก็เป็นโอกาสให้ FAT ปรับทิศทางทีมชาติไทยเพื่อฟื้นฟูผลงานและความเชื่อมั่นของแฟนบอล การเตรียมตัวสำหรับการเลือกโค้ชใหม่และการแข่งขันในอนาคตจะเป็นกุญแจสำคัญของความสำเร็จ
