บางที…เวลานี้อาจเป็นช่วงที่เหมาะที่สุดแล้ว ที่เราต้อง “นิยามใหม่” ว่าอะไรคือสิ่งที่เป็นไปได้ และอะไรคือสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ในฟุตบอลสกอตแลนด์
หลังจากชัยชนะอันยอดเยี่ยมของ ฮาร์ทส์ (Heart of Midlothian) ซึ่งถือเป็นบททดสอบสำคัญที่สุดของพวกเขาในฤดูกาลนี้ เสียงพูดถึง “การสิ้นสุดของยุคเก่า” และ “การเริ่มต้นของยุคใหม่” อาจไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันอีกต่อไป
40 ปีแห่งอำนาจ “Old Firm” – อาจถึงเวลาที่เปลี่ยนแปลง
ตลอด 40 ปีที่ผ่านมา ฟุตบอลสกอตแลนด์มีเพียงสองชื่อที่ผลัดกันครองความยิ่งใหญ่ — เซลติก และ เรนเจอร์ส (Rangers)
แฟนบอลแทบทุกคนในประเทศต่างยอมรับว่า “ไม่มีทีมใดนอกสองสโมสรนี้” ที่จะคว้าแชมป์ลีกได้
ทุกครั้งที่มีทีมม้ามืดฟอร์มดีช่วงต้นฤดูกาล พวกเขามักจะถูก “สองยักษ์ใหญ่กลืนหาย” เมื่อฤดูกาลเข้าสู่โค้งสำคัญ
แต่ปีนี้มันต่างออกไป — และอาจมากพอที่จะเปลี่ยนประวัติศาสตร์
ฮาร์ทส์นำโด่ง 8 แต้ม หลังชนะแชมป์เก่า
หลังผ่าน 9 นัด ฮาร์ทส์นำเป็นจ่าฝูงโดยมีแต้มมากกว่าเซลติกถึง 8 คะแนน
และที่สำคัญคือ พวกเขา “เอาชนะทั้งเซลติกและเรนเจอร์สมาแล้ว”
ทีมของกุนซือ เดเร็ค แม็คอินเนส (Derek McInnes) เล่นฟุตบอลที่ครบเครื่อง — ทั้งเกมรุก เกมรับ และพลังใจ
สามประสานแนวรุกอย่าง
อเล็กซานดริออส คีซีรีดิส (Alexandrios Kyziridis)
ลอว์เรนซ์ แชงค์แลนด์ (Lawrence Shankland)
เคลาดิโอ บราก้า (Claudio Braga)
คือหัวใจสำคัญที่พาทีมทะยาน
แฟนบอลในสนามไทน์คาสเซิลร่วมฉลองกันด้วยบรรยากาศสุดมันส์
เมื่อแชงค์แลนด์ยิงจุดโทษให้ทีมหนี 3-1 พวกเขาทำ “ท่าฉลองโพซนัน” ล้อเลียนแฟนเซลติกอย่างสนุกสนาน
เสียงร้องเพลง “We Shall Not Be Moved” (พวกเราจะไม่ยอมถอย) ดังก้องไปทั่วอัฒจันทร์
มันคือภาพของทีมที่เชื่อมั่นในตัวเอง และแฟนบอลที่กำลังมีความสุขที่สุดในรอบหลายปี
สถิติชี้ชัด – ฮาร์ทส์ดีที่สุดในลีกตอนนี้
- ยิงได้อย่างน้อย 3 ประตูใน 5 จาก 9 เกมลีก
- เฉลี่ยยิงตรงกรอบต่อเกม 7 ครั้ง (สูงกว่าค่าเฉลี่ยเดิม 5.7)
- เซลติกต้องพึ่ง คาสเปอร์ ชไมเคิล เซฟมากที่สุดในฤดูกาล
แม้เกมนี้จะไม่ถึงขั้นถล่ม แต่ชัยชนะของฮาร์ทส์คือ “คำตอบชัดเจน” ว่าพวกเขาไม่ใช่ทีมดวงดีชั่วคราวอีกต่อไป
เดเร็ค แม็คอินเนส – ผู้อยู่เบื้องหลังความฝันสีเลือดหมู
แม็คอินเนส คือโค้ชที่ไม่พูดมาก แต่พิสูจน์ด้วยผลงาน
เขากำลังสร้างทีมที่สมดุล ทั้งพลังของผู้เล่นดาวรุ่งและประสบการณ์ของตัวเก๋า
“เรายังมีนักเตะใหม่กำลังจะกลับมาจากอาการบาดเจ็บ และอีกหลายคนที่ยังรอโอกาสโชว์ศักยภาพ”
— เดเร็ค แม็คอินเนส กล่าวหลังเกม
สิ่งที่ทำให้ทีมนี้น่ากลัวคือ “ความมั่นใจ” ที่ไม่ต้องแสร้ง
พวกเขาเริ่มเกมอย่างดุดัน ใส่เซลติกจนตั้งตัวไม่ทัน และได้ประตูนำจากลูกทำเข้าประตูตัวเองของ เดน เมอร์เรย์ (Dane Murray)
แม้เซลติกจะตีเสมอได้ แต่ฮาร์ทส์ก็กลับมานำอีกครั้งด้วยความเด็ดขาด
คีซีรีดิสยิงไกลสุดสวย ก่อนบราก้าถูกทำฟาวล์ในเขตโทษ และแชงค์แลนด์ซัดปิดเกมจากจุดโทษ
เซลติกเริ่มสั่นคลอน – เรนเจอร์สยังหาทางกลับ
เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือเซลติกพูดหลังเกมว่า “ยังเหลืออีก 29 นัดให้เล่น”
แต่น้ำเสียงนั้นบ่งบอกชัดว่า เขาเริ่มรู้ว่าฤดูกาลนี้ “ไม่เหมือนเดิม”
เซลติกดูไร้พลังและไม่มีความเชื่อมั่นเหมือนเก่า ขณะที่เรนเจอร์สก็ฟอร์มแกว่งต่อเนื่อง
“ทำไมแฟนฮาร์ทส์จะฝันไม่ได้?”
บางคนอาจบอกว่า “ยังเร็วเกินไป” ที่จะพูดถึงแชมป์
แต่แฟนฮาร์ทส์หลายหมื่นคนตอบกลับด้วยรอยยิ้ม — เพราะนี่คือ “ช่วงเวลาที่พวกเขารอคอยมาทั้งชีวิต”
ทีมนี้ไม่ได้แชมป์ลีกมาตั้งแต่ปี 1960 —
และการนำโด่งถึง 8 คะแนนหลังผ่าน 9 นัด คือสิ่งที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อนในยุคพรีเมียร์ลีก
“ฟุตบอลคือเกมของความฝัน แล้วทำไมพวกเราจะฝันไม่ได้?”
โครงสร้างสโมสรที่มั่นคง – หัวใจของความสำเร็จ
เบื้องหลังความสำเร็จของฮาร์ทส์คือ “ระบบ” ที่แน่นและชัดเจน
ตอนนี้สโมสรได้รับการหนุนหลังจาก โทนี่ บลูม (Tony Bloom) ประธานสโมสรไบรท์ตัน ที่เข้ามาลงทุนกว่า 10 ล้านปอนด์ เพื่อถือหุ้นส่วนน้อย
ทีมยังได้รับความช่วยเหลือจาก Jamestown Analytics บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลที่ค้นพบเพชรเม็ดงามอย่าง
- คีซีรีดิส (ดาวเตะกรีซจากลีกสโลวาเกีย)
- บราก้า (นักเตะจากดิวิชันสองของนอร์เวย์)
ทุกภาคส่วนของสโมสร — ทั้งในและนอกสนาม — กำลังเดินไปในทิศทางเดียวกัน
บทสรุป: บางที “สิ่งที่เป็นไปไม่ได้” อาจเริ่มเป็นจริงแล้ว
ฮาร์ทส์กำลังทำให้วงการฟุตบอลสกอตแลนด์ต้องหันมามอง
พวกเขาไม่ได้มีแค่โชค แต่มีระบบ มีความมั่นคง และมีแรงศรัทธาที่กำลังเติบโตทุกวัน
“ถ้าไม่ใช่ปีนี้ ก็คงอีกไม่นานนัก – เพราะสิ่งที่พวกเขากำลังสร้าง มันดูยั่งยืนกว่าที่ใครคิดไว้มาก”
สนามไทน์คาสเซิลในค่ำวันอาทิตย์นั้นเต็มไปด้วยสีเลือดหมูแห่งความหวัง
แฟน ๆ ร้องเพลงด้วยน้ำตาแห่งความเชื่อ —
ว่า “บางที ปี 2025 อาจเป็นปีที่ฮาร์ทส์เขียนตำนานบทใหม่ให้วงการฟุตบอลสกอตแลนด์”
